สรรพคุณพริกหยวก ประโยชน์ดีๆ ที่หลายคนไม่รู้

พริกหยวกในภาษาอังกฤษเรียกว่า bell pepper หรือ sweet pepper เป็นพืชผักตระกูลพริก มีลักษณะเป็นทรงกลมหรือทรงกระบอก มีสีสันสดใส เช่น สีเขียว เหลือง แดง ส้ม และม่วง นิยมนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู หลายคนอาจคิดว่าพริกหยวกเป็นเพียงผักที่มีรสชาติเผ็ดเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว พริกหยวกมีสรรพคุณและประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้

  • ช่วยบำรุงสายตา พริกหยวกมีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ วิตามินเอมีส่วนช่วยในการมองเห็นในที่มืด หากรับประทานพริกหยวกเป็นประจำจะช่วยบำรุงสายตาให้แข็งแรง
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ พริกหยวกมีวิตามินซีสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่สร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เนียนนุ่ม
  • ช่วยต้านอนุมูลอิสระ พริกหยวกมีสารแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ เป็นต้น
  • ช่วยลดน้ำหนัก พริกหยวกมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยทำให้อิ่มท้องนาน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักหรือต้องการลดน้ำหนัก
  • ช่วยป้องกันโรคหวัด พริกหยวกมีวิตามินซีสูง ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง จึงช่วยป้องกันโรคหวัดได้

นอกจากนี้ พริกหยวกยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เป็นต้น

ตารางสารอาหารของพริกหยวก

ข้อมูลตารางสารอาหารของพริกหยวก ที่ usda มีดังนี้

สารอาหารปริมาณต่อ 100 กรัม
พลังงาน25 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต6 กรัม
โปรตีน1.2 กรัม
ไขมัน0.2 กรัม
ไฟเบอร์2.2 กรัม
วิตามินเอ1,660 ไมโครกรัม (RE)
วิตามินซี167 มิลลิกรัม
วิตามินเค19.7 ไมโครกรัม
โพแทสเซียม230 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม22 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส38 มิลลิกรัม
แคลเซียม20 มิลลิกรัม
เหล็ก0.2 มิลลิกรัม

พริกหยวกเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินเอและวิตามินซี วิตามินเอมีส่วนช่วยในการมองเห็นในที่มืด วิตามินซีมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่สร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เนียนนุ่ม

นอกจากนี้ พริกหยวกยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก

พริกหยวกมีสีสันสดใส นิยมนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น แกงจืดพริกหยวก ผัดผักรวมมิตร พิซซ่าหน้าพริกหยวก สลัดผัก เป็นต้น

โทษของพริกหยวก

พริกหยวกโดยทั่วไปมีความปลอดภัยในการรับประทาน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่แพ้เกสรดอกไม้ แพ้ผักบางชนิด หรือแพ้พริกหยวก อาจมีอาการแพ้ได้ เช่น ผื่นขึ้นตามลำตัว ใบหน้า หรือรอบปาก ลิ้นบวม และอาจมีปัญหาในทางเดินระบบหายใจได้

นอกจากนี้ พริกหยวกยังมีสารประกอบที่เรียกว่า แคปไซซิน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนในปากและลำคอได้ อย่างไรก็ตาม อาการนี้มักจะหายไปเองในเวลาไม่นาน

สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้พริกหยวก ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานพริกหยวก หากมีอาการแพ้ควรรีบไปพบแพทย์

สำหรับข้อควรระวังในการรับประทานพริกหยวก มีดังนี้

  • ล้างพริกหยวกให้สะอาดก่อนรับประทานเสมอ เพื่อขจัดสารพิษจากยาฆ่าแมลงที่อาจตกค้างอยู่
  • หากรับประทานพริกหยวกมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ควรรับประทานพริกหยวกในปริมาณที่พอเหมาะ

โดยสรุปแล้ว พริกหยวกเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมและระมัดระวังสำหรับผู้ที่แพ้พริกหยวก

วิธีเลือกซื้อและเก็บรักษาพริกหยวก

พริกหยวกที่สดใหม่จะมีสีสันสดใส เนื้อแน่น ไม่เหี่ยวย่นหรือช้ำ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เมื่อบีบแล้วไม่นิ่มเกินไป

วิธีเก็บรักษาพริกหยวกให้สดใหม่ ควรเก็บไว้ในตู้เย็นช่องปกติ โดยห่อด้วยกระดาษหรือพลาสติกให้มิดชิด พริกหยวกจะเก็บได้นานประมาณ 1-2 สัปดาห์

บทความที่น่าสนใจ
ผักชี: สมุนไพรอเนกประสงค์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
ต้นผักชี

เมื่อพูดถึงสมุนไพรผักสวนครัว มีตัวเลือกมากมายให้เลือก แต่ถ้าคุณกำลังมองหาผักสวนครัวที่มีครบทุกอย่าง ผักชีก็เป็นทางเลือกท อ่านต่อ

ประโยชน์ของแครอทที่ดีต่อสุขภาพของคุณ
แครอท

ตั้งแต่คุณค่าทางโภชนาการไปจนถึงความหลากหลายในสูตรอาหาร แครอทเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับเมนูอาหารทุกประเภท แครอทเป็นห อ่านต่อ

5 คุณประโยชน์ของอาร์ติโช้ค (Artichokes) และวิธีการกินอาร์ติโช้ค
อาร์ติโช้ค

ตามตำนานโบราณ อาร์ติโช้คเคยเป็นของมีค่ามาก จนนำมารับประทานเป็นของหวานเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ อาร์ติโช้คมักพบในอา อ่านต่อ

แชร์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *