ขิง: ประโยชน์และโทษข้อควรระวัง ที่คุณอาจยังไม่รู้

ขิง (Zingiber officinale) เป็นไม้ล้มลุก มีเหง้าใต้ดิน เหง้าของขิงมีรูปร่างคล้ายนิ้วมือ ยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร เปลือกนอกของเหง้าขิงมีสีเหลืองอมน้ำตาล เนื้อในมีสีเหลืองอ่อน กลิ่นฉุน รสเผ็ดร้อน

ขิงเป็นสมุนไพรที่มีสารสำคัญหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ สาร gingerol และ shogaol สาร gingerol เป็นสารออกฤทธิ์หลักในขิง มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรีย มีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการปวด คลื่นไส้ อาเจียน และอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

สาร gingerol และ shogaol พบมากในขิงสด เมื่อขิงสุก ปริมาณของสาร gingerol จะลดลง แต่ปริมาณของสาร shogaol จะเพิ่มขึ้น สาร gingerol และ shogaol สามารถสกัดจากขิงสด ขิงผง และขิงแคปซูล

สาร gingerol และ shogaol มีความปลอดภัยสูงเมื่อรับประทานในปริมาณที่แนะนำ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาลดความดันโลหิต ยารักษาโรคเบาหวาน ยารักษาโรคหัวใจ และยารักษาโรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานขิง

ขิงเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารและเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม สรรพคุณของขิงที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่

  • บรรเทาอาการเมารถเมาเรือ คลื่นไส้อาเจียน
  • บรรเทาอาการปวดประจำเดือน
  • บรรเทาอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อ
  • บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด
  • บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย
  • บรรเทาอาการปวดท้อง
  • บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
  • บรรเทาอาการหวัดและไข้หวัดใหญ่
  • บรรเทาอาการอักเสบ
  • บรรเทาอาการแพ้
  • ต้านอนุมูลอิสระ
  • เพิ่มการไหลเวียนโลหิต
  • ป้องกันโรคมะเร็ง
  • ป้องกันโรคหัวใจ
  • ลดน้ำหนัก
  • บำรุงผิวพรรณ

วิธีรับประทานขิง

ขิงสามารถรับประทานได้หลายวิธี เช่น

  • รับประทานขิงสด
  • ดื่มน้ำขิง
  • กินขิงดอง
  • ใส่ขิงในอาหาร

วิธีทำน้ำขิง สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

  1. ล้างขิงให้สะอาด ปอกเปลือก และขูดขิงเป็นชิ้นบาง ๆ
  2. ต้มน้ำให้เดือด ใส่ขิงลงไปต้มประมาณ 10-15 นาที
  3. กรองเอากากขิงออก เติมน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายตามชอบ
  4. ดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ ทันที

คำแนะนำและข้อควรระวังเพิ่มเติม

  • น้ำขิงสามารถดื่มได้ทุกวัน แต่ไม่ควรดื่มมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
  • น้ำขิงอาจไม่เหมาะกับผู้ที่รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาลดความดันโลหิต ยารักษาโรคเบาหวาน ยารักษาโรคหัวใจ และยารักษาโรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานน้ำขิง
  • น้ำขิงสามารถดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น แต่น้ำขิงร้อนจะมีประโยชน์มากกว่าน้ำขิงเย็น เพราะความร้อนจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและบรรเทาอาการปวด
  • น้ำขิงสามารถดื่มได้ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ แต่หากดื่มก่อนอาหารจะช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้
บทความที่น่าสนใจ
กระชายขาว สมุนไพรพื้นบ้าน ของดีมีประโยชน์
Fingerroot

กระชายขาว (Boesenbergia rotunda) เป็นพืชสมุนไพรที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะคล้ายขิง แต่เป็นสีขาว มีก อ่านต่อ

ขมิ้นชัน: สมุนไพรปลอดภัย แต่มีข้อควรระวัง
turmeric

ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรที่ขึ้นชื่อเรื่องสรรพคุณทางยามายาวนานนับพันปี ขมิ้นชันมีสารเคมีที่ออกฤทธิ์สำคัญคือ สารเคอร์คูมิน (Cu อ่านต่อ

ชะอม พืชผักสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย
8bf3eb71 762e 4ee3 a203 6ae31cc2488c GinmaiFood

ชะอม (Senegali pennata) เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชะอมเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย อ่านต่อ

แชร์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *