ตะไคร้เป็นพืชล้มลุก ประเภทหญ้า อยู่ในวงศ์หญ้า (POACEAE) ลำต้นเป็นข้อปล้อง สูงประมาณ 4-6 ฟุต ใบยาวเรียว ปลายใบมีขนหนาม ลำต้นรวมกันเป็นกอ มีกลิ่นหอม เป็นช่อยาวมีดอกเล็กฝอยเป็นจำนวนมาก
ลักษณะของตะไคร้
- ลำต้น เป็นข้อปล้อง สูงประมาณ 4-6 ฟุต ผิวลำต้นเรียบ สีเขียวเข้ม
- ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ ลักษณะเรียวยาว ปลายใบแหลม มีขนหนาม เส้นใบขนานกับก้านใบ ยาวประมาณ 30-60 เซนติเมตร กว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร
- ดอก ออกดอกเป็นช่อ ออกตรงกลางลำต้น มีช่อเป็นกาบมีขนาดใหญ่ มีดอกย่อยจำนวนมาก มีลักษณะเล็กๆ มีสีขาวใส
- ราก มีระบบรากแก้ว มีลักษณะกลมๆ มีหัวเหง้าอยู่ใต้ดิน มีลักษณะเป็นแก่นแข็ง มีรากแขนงรากฝอยเล็กๆ รอบๆ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีสีน้ำตาล
ประเภทของตะไคร้
ตะไคร้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- ตะไคร้หอม (Lemongrass) มีลักษณะใบเรียวยาว ปลายใบแหลม มีขนหนาม ลำต้นมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมนำมาประกอบอาหารและใช้เป็นยารักษาโรค
- ตะไคร้บ้าน (Cymbopogon citratus) มีลักษณะใบเรียวยาว ปลายใบแหลม มีขนหนาม ลำต้นมีกลิ่นหอมน้อยกว่าตะไคร้หอม นิยมนำมาประกอบอาหารและใช้เป็นยารักษาโรค
นอกจากนี้ ยังมีตะไคร้อีกหลายประเภท เช่น ตะไคร้น้ำ ตะไคร้ต้น ตะไคร้ผี เป็นต้น แต่ละประเภทมีกลิ่นหอมและสรรพคุณที่แตกต่างกันไป
ประโยชน์และสรรพคุณของตะไคร้
ตะไคร้เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย สามารถนำมาใช้ทั้งต้น ใบ ดอก และราก สรรพคุณและประโยชน์ของตะไคร้แต่ละส่วนมีดังนี้
ประโยชน์ของลำต้นตะไคร้
ลำต้นตะไคร้มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารต่างๆ เช่น ต้มยำ แกงเผ็ด แกงเขียวหวาน เป็นต้น ตะไคร้ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติให้กับอาหารได้ นอกจากนี้ ลำต้นตะไคร้ยังมีสรรพคุณและประโยชน์อื่นๆ ดังนี้
- ช่วยย่อยอาหาร
- แก้หวัด
- บำรุงหัวใจ
- บำรุงไต
- แก้ปวด
- ต้านการอักเสบ
- ต้านอนุมูลอิสระ
ประโยชน์ของใบตะไคร้
ใบตะไคร้มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารต่างๆ เช่น ต้มยำ แกงเผ็ด แกงเขียวหวาน เป็นต้น ใบตะไคร้ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติให้กับอาหารได้ นอกจากนี้ ใบตะไคร้ยังมีสรรพคุณและประโยชน์อื่นๆ ดังนี้
- ช่วยย่อยอาหาร
- แก้หวัด
- บำรุงหัวใจ
- บำรุงไต
- แก้ปวด
- ต้านการอักเสบ
- ต้านอนุมูลอิสระ
ประโยชน์ของดอกตะไคร้
ดอกตะไคร้มีสรรพคุณและประโยชน์ดังนี้
- ช่วยบำรุงหัวใจ
- บำรุงไต
- แก้ปวด
- ต้านการอักเสบ
ประโยชน์ของรากตะไคร้
รากตะไคร้มีสรรพคุณและประโยชน์ดังนี้
- ช่วยบำรุงหัวใจ
- บำรุงไต
- แก้ปวด
- ต้านการอักเสบ
วิธีรับประทานตะไคร้
ตะไคร้สามารถรับประทานได้ทั้งสดและแห้ง ตะไคร้สดนิยมนำมาประกอบอาหาร ส่วนตะไคร้แห้งนิยมนำมาทำเป็นชาตะไคร้ ตะไคร้ยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำมันตะไคร้เพื่อใช้ทาผิวหรือนวดเพื่อบรรเทาอาการปวดได้
ข้อควรระวัง
ตะไคร้เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีโทษหรือข้อควรระวังบางประการ ดังนี้
- ผู้ที่มีอาการแพ้ตะไคร้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานตะไคร้หรือผลิตภัณฑ์จากตะไคร้ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน ลมพิษ หายใจลำบาก เป็นต้น
- ผู้ป่วยโรคไต ควรระมัดระวังการรับประทานตะไคร้หรือผลิตภัณฑ์จากตะไคร้ เพราะตะไคร้มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากเกินไป
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานตะไคร้หรือผลิตภัณฑ์จากตะไคร้ เพราะยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยในการใช้ตะไคร้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ข้อควรระวังในการรับประทานตะไคร้
- ไม่ควรรับประทานตะไคร้ปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้
- ไม่ควรรับประทานตะไคร้ร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลงได้
- ไม่ควรรับประทานตะไคร้ร่วมกับน้ำผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว เพราะอาจทำให้ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารได้
ตะไคร้เป็นแหล่งของสารอาหารหลายชนิด ดังนี้
- คาร์โบไฮเดรต ตะไคร้มีคาร์โบไฮเดรตเป็นองค์ประกอบหลัก คิดเป็นประมาณ 80% ของน้ำหนักแห้ง
- โปรตีน ตะไคร้มีโปรตีนประมาณ 2-3% ของน้ำหนักแห้ง
- ไขมัน ตะไคร้มีไขมันประมาณ 1-2% ของน้ำหนักแห้ง
- วิตามิน ตะไคร้มีวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินเค
- แร่ธาตุ ตะไคร้มีแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม
ปริมาณคุณค่าทางโภชนาการของตะไคร้
ปริมาณคุณค่าทางโภชนาการของตะไคร้ 100 กรัม มีดังนี้
สารอาหาร | ปริมาณ |
---|---|
พลังงาน | 126 กิโลแคลอรี |
โปรตีน | 1.2 กรัม |
ไขมัน | 2.1 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 25.5 กรัม |
ใยอาหาร | 2.6 กรัม |
วิตามินซี | 1 มิลลิกรัม |
วิตามินบี 1 | 0.05 มิลลิกรัม |
วิตามินบี 2 | 0.02 มิลลิกรัม |
ไนอะซิน | 2.2 มิลลิกรัม |
แคลเซียม | 35 มิลลิกรัม |
ฟอสฟอรัส | 30 มิลลิกรัม |
เหล็ก | 2.6 มิลลิกรัม |
แมกนีเซียม | 25 มิลลิกรัม |
โพแทสเซียม | 418 มิลลิกรัม |
โซเดียม | 5 มิลลิกรัม |
ชาตะไคร้เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมและรสชาติดี นิยมดื่มเพื่อสุขภาพ ชาตะไคร้ทำมาจากตะไคร้สดหรือตะไคร้แห้ง นำมาต้มกับน้ำร้อนแล้วกรองเอากากออก ชาตะไคร้สามารถดื่มร้อนหรือเย็นก็ได้
วิธีทำชาตะไคร้สด
- ล้างตะไคร้ให้สะอาด ตัดเป็นท่อนขนาด 1-2 นิ้ว
- ใส่ตะไคร้ลงในหม้อเติมน้ำให้ท่วม ต้มด้วยไฟกลางประมาณ 10 นาที
- ปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น กรองเอากากออก
- เทชาตะไคร้ใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ
วิธีทำชาตะไคร้แห้ง
- ล้างตะไคร้แห้งให้สะอาด
- ใส่ตะไคร้แห้งลงในหม้อเติมน้ำให้ท่วม ต้มด้วยไฟกลางประมาณ 10 นาที
- ปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น กรองเอากากออก
- เทชาตะไคร้ใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ
ประโยชน์ของชาตะไคร้
ชาตะไคร้มีสรรพคุณและประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ ดังนี้
- ช่วยย่อยอาหาร ตะไคร้มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก
- แก้หวัด ตะไคร้มีฤทธิ์ช่วยขับเสมหะ แก้หวัด คัดจมูก
- บำรุงหัวใจ ตะไคร้มีฤทธิ์ช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
- บำรุงไต ตะไคร้มีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยให้ไตทำงานได้ดี
- แก้ปวด ตะไคร้มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวด เช่น ปวดฟัน ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ
- ต้านการอักเสบ ตะไคร้มีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการบวมอักเสบ
- ต้านอนุมูลอิสระ ตะไคร้มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
- ช่วยลดน้ำหนัก ตะไคร้มีฤทธิ์ช่วยเร่งการเผาผลาญ ช่วยลดการสะสมไขมันในร่างกาย