ถั่วเลนทิลเป็นพืชตระกูลถั่วที่กินได้ เป็นพืชล้มลุกที่ขึ้นชื่อเรื่องเมล็ดรูปเลนส์ มีความสูงประมาณ 40 ซม. และเมล็ดจะเติบโตเป็นฝัก ในแต่ละฝักจะมีสองเมล็ด
ถั่วเลนทิลมีหลากหลายสี ได้แก่ ดำ เขียว เหลือง แดง และน้ำตาล แต่ละสีมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน ถั่วเลนทิลดำมีรสชาติเข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่แน่น ถั่วเลนทิลเขียวมีรสชาติที่เข้มข้นน้อยกว่าและเนื้อสัมผัสที่นุ่มกว่า ถั่วเลนทิลเหลืองมีรสชาติที่หวานกว่าและเนื้อสัมผัสที่นิ่มกว่า ถั่วเลนทิลแดงมีรสชาติที่หวานและเนื้อสัมผัสที่นุ่มกว่า ถั่วเลนทิลน้ำตาลมีรสชาติที่หวานน้อยที่สุดและเนื้อสัมผัสที่นิ่มที่สุด
ประโยชน์ของถั่วเลนทิล
ถั่วเลนทิลเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม เป็นแหล่งไฟเบอร์ที่ดีเยี่ยม และเป็นแหล่งของธาตุเหล็ก วิตามินบี และโฟเลต
ประโยชน์ของถั่วเลนทิล ได้แก่
- เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ถั่วเลนทิลอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น โปรตีน ไฟเบอร์ ธาตุเหล็ก วิตามินบี และโฟเลต
- เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม ถั่วเลนทิลเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีโปรตีนสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานมังสวิรัติหรือวีแกน
- เป็นแหล่งไฟเบอร์ที่ดีเยี่ยม ถั่วเลนทิลมีไฟเบอร์สูง ช่วยในการย่อยอาหารและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง
- เป็นแหล่งของธาตุเหล็ก วิตามินบี และโฟเลต ถั่วเลนทิลเป็นแหล่งของธาตุเหล็ก วิตามินบี และโฟเลต ซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย
ตารางสารอาหารของถั่วเลนทิล
ตารางสารอาหารของถั่วเลนทิล 100 กรัม แสดงดังนี้
สารอาหาร | ปริมาณ |
---|---|
พลังงาน | 355 กิโลแคลอรี |
โปรตีน | 19.8 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 60.1 กรัม |
ไขมัน | 2.2 กรัม |
ไฟเบอร์ | 15.6 กรัม |
น้ำ | 10.4 กรัม |
ธาตุเหล็ก | 8.6 มิลลิกรัม (46% DV) |
วิตามินบี1 | 0.4 มิลลิกรัม (28% DV) |
วิตามินบี2 | 0.2 มิลลิกรัม (14% DV) |
วิตามินบี3 | 2.4 มิลลิกรัม (10% DV) |
โฟเลต | 236 ไมโครกรัม (59% DV) |
โทษของถั่วเลนทิล
ถั่วเลนทิลเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่อาจพบโทษได้บ้าง ดังนี้
- อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ถั่วเลนทิลมีปริมาณไฟเบอร์สูง จึงอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีระบบย่อยอาหารอ่อนแอ
- การแพ้ถั่ว ถั่วเลนทิลเป็นพืชตระกูลถั่ว จึงอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เช่น อาการผื่นคัน บวม หายใจลำบาก ในกรณีนี้ควรหยุดรับประทานถั่วเลนทิลทันที
- การปนเปื้อนของเชื้อรา ถั่วเลนทิลอาจเกิดการปนเปื้อนของเชื้อราได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ควรเลือกซื้อถั่วเลนทิลที่สดใหม่และเก็บรักษาอย่างเหมาะสม
โดยทั่วไปแล้ว ถั่วเลนทิลเป็นอาหารที่มีความปลอดภัยสูง แต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และควรเลือกซื้อถั่วเลนทิลที่สดใหม่และเก็บรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงจากโทษที่อาจเกิดขึ้นได้
วิธีลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อจากถั่วเลนทิล
- แช่ถั่วเลนทิลก่อนนำไปปรุงอาหาร การแช่ถั่วเลนทิลจะทำให้ถั่วเลนทิลดูดซับน้ำและนิ่มลง ทำให้ย่อยง่ายขึ้น
- ปรุงอาหารถั่วเลนทิลให้สุก การปรุงอาหารถั่วเลนทิลให้สุกจะช่วยทำลายสารที่ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
- รับประทานถั่วเลนทิลร่วมกับผัก ผักจะช่วยเพิ่มกากใยให้กับอาหาร ทำให้ย่อยง่ายขึ้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานถั่วเลนทิลในปริมาณมาก การรับประทานถั่วเลนทิลในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้