พริกขี้หนูในภาษาอังกฤษเรียกว่า chili pepper หรือ chilli ขึ้นอยู่กับบริบท โดยคำว่า chili pepper มักใช้เรียกพริกขี้หนูชนิดต่างๆ โดยทั่วไป ส่วนคำว่า chilli มักใช้เรียกพริกขี้หนูชนิดที่มีขนาดเล็กและเผ็ดมาก เช่น พริกขี้หนูสวน (Bird’s eye chili)
พริกขี้หนูมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Capsicum annuum อยู่ในวงศ์ Solanaceae เป็นพืชสมุนไพรที่มีรสชาติเผ็ดร้อน นิยมนำมาประกอบอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติและความเผ็ดร้อนให้กับอาหาร โดยพริกขี้หนูมีสารแคปไซซิน (Capsaicin) เป็นสารที่ทำให้เกิดรสเผ็ดร้อน นอกจากนี้ยังพบว่าแคปไซซินมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดอาการปวด กระตุ้นการเผาผลาญ และอาจช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับพริกขี้หนูอยู่หลายประการ ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่รับประทานพริกขี้หนูได้รับอันตรายได้ บทความนี้จึงรวบรวมความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับพริกขี้หนูมาอธิบายโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ผู้ที่รับประทานพริกขี้หนูได้รับความรู้ที่ถูกต้อง
ความเชื่อผิดที่ 1: พริกขี้หนูช่วยแก้พิษงู
ความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริง พริกขี้หนูไม่สามารถช่วยแก้พิษงูได้ ในทางกลับกัน การรับประทานพริกขี้หนูหลังจากถูกงูกัดอาจทำให้อาการแย่ลงได้ เนื่องจากพริกขี้หนูอาจทำให้บริเวณที่ถูกกัดระคายเคืองมากขึ้น นอกจากนี้ พิษงูบางชนิดอาจทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งอาจทำให้อาการแสบร้อนจากพริกขี้หนูรุนแรงขึ้น
ความเชื่อผิดที่ 2: พริกขี้หนูช่วยฆ่าเชื้อโรค
ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้องทั้งหมด พริกขี้หนูมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัสบางชนิด แต่พริกขี้หนูไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ทุกชนิด นอกจากนี้ การรับประทานพริกขี้หนูเพียงอย่างเดียวไม่สามารถรักษาโรคได้ ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาจากแพทย์อย่างเหมาะสม
ความเชื่อผิดที่ 3: พริกขี้หนูช่วยลดน้ำหนัก
ความเชื่อนี้บางส่วนเป็นความจริง พริกขี้หนูมีฤทธิ์ในการกระตุ้นการเผาผลาญแคลอรี ซึ่งอาจช่วยลดน้ำหนักได้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การรับประทานพริกขี้หนูเพียงอย่างเดียวไม่สามารถลดน้ำหนักได้ ผู้ที่ลดน้ำหนักควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ความเชื่อผิดที่ 4: พริกขี้หนูทำให้ผมร่วง
ความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริง พริกขี้หนูไม่มีผลต่อเส้นผม ในทางกลับกัน พริกขี้หนูอาจช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงขึ้น เนื่องจากแคปไซซินมีฤทธิ์ในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ซึ่งอาจช่วยนำสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงเส้นผมได้ดีขึ้น
ความเชื่อผิดที่ 5: พริกขี้หนูทำให้เหงื่อออกมาก
ความเชื่อนี้บางส่วนเป็นความจริง พริกขี้หนูมีฤทธิ์ในการกระตุ้นการหลั่งสารสื่อประสาทที่กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ซึ่งอาจทำให้เหงื่อออกมากได้ อย่างไรก็ตาม การรับประทานพริกขี้หนูเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เหงื่อออกมากได้ ผู้ที่เหงื่อออกมากควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
คำแนะนำในการรับประทานพริกขี้หนูอย่างปลอดภัย
พริกขี้หนูเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานพริกขี้หนูอย่างปลอดภัย โดยปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- เริ่มต้นจากการรับประทานในปริมาณที่น้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้น หากรับประทานพริกขี้หนูมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนในปากและลำคอ ท้องอืด ท้องเฟ้อ และท้องเสีย
- หลีกเลี่ยงการรับประทานพริกขี้หนูหากมีอาการแพ้พริก
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะอาหาร โรคลำไส้อักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานพริกขี้หนู
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานพริกขี้หนูในปริมาณมาก
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่รับประทานพริกขี้หนู เพื่อจะได้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากพริกขี้หนูและหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้