กะหล่ำปลี ผักจำพวกกะหล่ำที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย กะหล่ำปลีมีถิ่นกำเนิดในเอเชียกลางและยุโรป พบมากในแถบยุโรปตอนกลางและตอนเหนือ กะหล่ำปลีมีหลากหลายสายพันธุ์ เช่น กะหล่ำปลีขาว กะหล่ำปลีแดง กะหล่ำปลีม่วง กะหล่ำดอก บรอกโคลี ฯลฯ
ประโยชน์ของกะหล่ำปลี
- อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเค วิตามินบี 6 แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โพแทสเซียม ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- ป้องกันโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่
- ป้องกันโรคมะเร็ง
- ช่วยให้ผิวพรรณสดใส
- ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
- ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
- ช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
- ช่วยลดความเสี่ยงโรคอ้วน
วิธีกินกะหล่ำปลี
- กะหล่ำปลีสามารถกินสดได้ โดยการล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำมาทานกับสลัดหรือยำ
- กะหล่ำปลียังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น แกงจืดกะหล่ำปลี กะหล่ำปลีผัด ฯลฯ
การเก็บรักษากะหล่ำปลี
- กะหล่ำปลีสามารถเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นได้นาน 1-2 สัปดาห์
- กะหล่ำปลีที่เก็บไว้นานควรห่อด้วยกระดาษหรือผ้าขาวบางเพื่อป้องกันไม่ให้เสียเร็ว
ข้อควรระวัง
- กะหล่ำปลีบางสายพันธุ์อาจมีสารกอยโตรเจน ซึ่งอาจทำให้ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายต่ำได้
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานกะหล่ำปลี
บทสรุป
กะหล่ำปลีเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ กะหล่ำปลีสามารถกินสดหรือนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู กะหล่ำปลีเป็นผักที่หาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพง กะหล่ำปลีจึงเป็นผักที่ควรรับประทานเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดี